การตรวจสอบและทำความสะอาดเป็นประจำ
1. การตรวจสอบรูปลักษณ์ภายนอก: ตรวจสอบรูปลักษณ์ของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงท่อ วาล์ว ปั๊ม และชิ้นส่วนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความเสียหาย การรั่วไหล หรือสนิมที่เห็นได้ชัด
2. การทำความสะอาดภายใน: ทำความสะอาดตะกอน สิ่งเจือปน และตะกอนภายในอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้อุปกรณ์สะอาด ซึ่งช่วยลดการอุดตันของอุปกรณ์และปรับปรุงประสิทธิภาพการบำบัด
การเปลี่ยนและบำรุงรักษา
1. เปลี่ยนไส้กรอง: เปลี่ยนไส้กรองในไส้กรองเป็นประจำตามการใช้อุปกรณ์และคำแนะนำของผู้ผลิต รอบการเปลี่ยนไส้กรองอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของอุปกรณ์และคุณภาพของน้ำที่ผ่านการบำบัด แต่โดยทั่วไปแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 1-2 ปี
2. เปลี่ยนซีล: ซีลเป็นส่วนสำคัญของอุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย หากพบว่าชำรุดหรือเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ควรเปลี่ยนให้ทันเวลาเพื่อป้องกันการรั่วซึม
3. ตรวจเช็คและซ่อมแซมปั๊มและมอเตอร์ : ตรวจสอบสภาพการทำงานของปั๊มน้ำและมอเตอร์อย่างสม่ำเสมอ หากพบเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน หรืออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ควรหยุดเครื่องเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมให้ทันเวลา
การหล่อลื่นและการกระชับ
1. การหล่อลื่นและการบำรุงรักษา: หล่อลื่นและบำรุงรักษาชิ้นส่วนที่ต้องการการหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสึกหรอและแรงเสียดทาน และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
2. การตรวจสอบการขัน : ตรวจสอบความแน่นของส่วนประกอบแต่ละส่วนของอุปกรณ์โดยเฉพาะชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ท่อ วาล์ว ปั๊ม ฯลฯ หากพบการหลวมให้ขันให้ทันเวลา
การตรวจสอบระบบไฟฟ้า
1. การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า: ตรวจสอบระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแหล่งจ่ายไฟ วงจร อุปกรณ์ควบคุม ฯลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานตามปกติ ให้ความสนใจในการตรวจสอบว่าสายไฟของอุปกรณ์ไฟฟ้ามีความแน่นหนาหรือไม่ และมีอายุการใช้งาน ความเสียหาย ฯลฯ หรือไม่
2. การตรวจจับความต้านทานของฉนวน: ตรวจจับความต้านทานของฉนวนของระบบไฟฟ้าเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทำงานอย่างปลอดภัย
การบำรุงรักษาเป็นพิเศษ
1. การบำบัดป้องกันการกัดกร่อน: สำหรับชิ้นส่วนที่อาจเกิดการกัดกร่อน เช่น ท่อโลหะ วาล์ว ฯลฯ ควรทำการบำบัดป้องกันการกัดกร่อนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทาสี การเติมสารยับยั้งการกัดกร่อน เป็นต้น
2. มาตรการป้องกันการแข็งตัว: ในพื้นที่เย็น ควรใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์กลายเป็นน้ำแข็งและแตกร้าว เช่น การเติมสารป้องกันการแข็งตัว ชั้นฉนวน เป็นต้น
ข้อกำหนดการดำเนินงานและความปลอดภัย
1. ปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้งาน: เมื่อใช้งานอุปกรณ์ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้งานอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์การทำงานหรือเปิดอุปกรณ์ตามต้องการ
2. การทำงานที่ปลอดภัย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทำงานในสภาวะที่ปลอดภัย และใส่ใจกับมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น การป้องกันอัคคีภัยและการป้องกันการระเบิด
3. การฝึกอบรมและการศึกษา: มีการฝึกอบรมและการศึกษาอย่างสม่ำเสมอแก่ผู้จัดการอุปกรณ์และผู้ปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ หลักการทำงาน และวิธีการบำรุงรักษา
บันทึกและการประเมินผล
1. บันทึกการบำรุงรักษา: ควรเก็บบันทึกหลังการบำรุงรักษาแต่ละครั้ง รวมถึงเวลาการบำรุงรักษา เนื้อหา ผลลัพธ์ ฯลฯ เพื่อการอ้างอิงและการประเมินผลในอนาคต
2. การประเมินผลกระทบ: ประเมินผลการบำบัดของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ เช่น คุณภาพน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ และประสิทธิภาพการบำบัดมีเสถียรภาพหรือไม่ ปรับกลยุทธ์การบำรุงรักษาและกระบวนการบำบัดให้ทันเวลาตามผลการประเมิน